วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2552

ศัลยกรรมจิตใจ

ศัลยกรรมจิตใจ
กระแสนิยมจากต่างแดนหลั่งไหลเข้ามาในสังคมไทยมากขึ้นทุกวัน และเมื่อมีความถี่ มีปริมาณมาก ก็จะกลายเป็นที่ยอมรับของสังคมในที่สุด หากว่ากระแสในด้านดีๆ โลกคงเปลี่ยนแปลงไปเป็นโลกที่สันติสุขในยุคของสื่อไร้พรหมแดน แต่สิ่งที่สังเกตเห็นกระแสส่วนใหญ่มักมากับวัฒนธรรมของบริโภคนิยม ทุนนิยมและวัตถุนิยม มีสิ่งหนึ่งที่เริ่มเห็นในขณะนี้ ผู้คนทั่วไปโดยเฉพาะในเมืองกำลังให้การยอมรับและกำลังกลายเป็นธุรกิจที่สร้างกำไรอย่างมหาศาล ถึงแม้ว่าระบบเศรษฐกิจโลกจะตกต่ำ นั่นก็คือ กระแสการทำศัลยกรรมความงาม มีผู้รู้เคยบอกไว้ว่า “ต่อให้การเงินการทองจะไม่คล่อง แต่สำหรับความสวยความงามแล้ว อย่างไรเสียไม่ขาดหายไปจากชีวิตประจำวันของคนเมืองได้เลย” เพราะนี่คือกิ่งก้านของวัตถุนิยม
อิทธิพลของวัฒนธรรมต่างแดนที่มากับสื่อ สามารถสร้างแรงบันดาลใจ ทำให้ผู้คนลอกเลียนแบบได้ เป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งของคนทำสื่อ อย่างล่าสุดมีการทำทัวร์ศัลยกรรมไปประเทศเกาหลี เพื่อทำให้หน้าตาเหมือนพระเอก นางเอกเกาหลี โดยเสียค่าใช้จ่ายขั้นต่ำอยู่ที่ 140,000 บาท (หนึ่งแสนสี่หมื่นบาท) และมีคนไทยสนใจทัวร์ศัลยกรรมนี้สูงเพิ่มขึ้น (ในขณะที่มีคนอีกมากมายต่อแถวรอเงิน 2,000 บาทจากรัฐบาล) รายงานข่าวยังบอกอีกว่า ศิลปินเกาหลีทำศัลยกรรมจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา
และด้วยความที่สังคมไทยเรากำลังคลั่งไคล้ ได้ปลื้มกับศิลปิน ภาพยนตร์ ละครจากประเทศเกาหลี จนกระทั่งเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาหลีอย่างมากมายในช่วง 1- 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีการลอกเลียนแบบเสื้อผ้าหน้าผม ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งภายนอกทั้งสิ้น ในความเป็นจริงวัฒนธรรมข้ามแดนนั้นมีส่วนดีอยู่ไม่น้อย หากเราได้ศึกษาถึงแก่นแท้และเนื้อหาจริงๆ ศึกษาเบื้องหลังของผลงานเหล่านั้น เราจะพบกับความอุตสาหะ ความประณีตและความเอาใจใส่ในด้านศิลปะ แต่ก็อีกนั่นแหละ สิ่งที่เห็นเพียงเปลือกนอกย่อมสร้างอิทธิพลได้มากกว่าสิ่งที่แฝงอยู่ด้านใน วันนี้เราจึงเห็นแต่เพียงแฟชั่นเกาหลี ญี่ปุ่น เต็มท้องถนน
แน่ล่ะ มองอีกด้านหนึ่งก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะทำอะไรกับเรือนร่างของตัวเองก็ได้ บางคนอาจจะกล่าวว่าเกิดมาทั้งที พอจะมีเงินมีทองที่พ่อแม่สะสมเป็นมรดกอยู่บ้าง ก็ขอสวย ขอหล่อ ดูบ้างจะเป็นไรมี จะให้เอาเงินไปแจกไปทำบุญนะเมื่อไรก็ทำได้ ส่วนผลกระทบต่อร่างกาย เอาไว้แก้ไขตอนพบกับปัญหาก็แล้วกัน...
รูปร่าง หน้าตาและเรือนร่าง เป็นสิ่งที่เราได้รับมาจากพระเจ้าตามความเชื่อของเราคาทอลิก เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องหมั่นคอยดูแลให้ร่างกายสมบูรณ์ ซึ่งแตกต่างกับการไปเที่ยวเสริม แต่ง ตัด ต่อ เติม นอกจากนี้สิ่งที่พระเจ้าประทานให้กับเราพร้อมกับร่างกาย คือ จิตใจ เมื่อเราปรับสมดุลระหว่างร่างกายและจิตใจได้ ก็สามารถเข้าสู่การมีจิตวิญญาณที่สมบูรณ์ มองในด้านนี้ เราจึงควรพัฒนาทางด้านจิตใจควบคู่ไปด้วย แต่ใช่หรือไม่ เรามักจะละเลย ละเว้นการพัฒนาทางด้านจิตใจ
จากการที่สังคมมุ่งเน้นอยู่เพียงเปลือกนอก ส่งผลให้ระดับคุณค่าทางจิตใจของเราลดต่ำลง ผู้หญิงหลายคนทำศัลยกรรมความงาม เพื่อที่จะให้ชายหนุ่มลุ่มหลง โดยคิดว่านั่นเป็นความรักที่แท้จริง ผู้ชายหลายคนไปเพิ่มสัดส่วนเพียงเพื่อจะได้ครอบครองผู้หญิงหลายๆคน ใช่หรือไม่ เมื่อเราอยู่กับสิ่งปลอม เราก็มักจะได้สิ่งจอมปลอมตามมา ความรักที่แท้จริง คือ สุดยอดปรารถนาของมนุษย์ทุกผู้คน เรามักจะหลงลืม เพียงคิดกันสั้นๆคิดกันตื้นๆว่า สิ่งที่ตาเห็นสำคัญกว่าสิ่งที่ใจแสวงหา
และเมื่อต้องร่วมเรือน ร่วมห้อง ร่วมอยู่ด้วยกัน ความงามภายนอกจะค่อยๆลดความสำคัญลง ต่างเริ่มเรียกร้องสิ่งที่อยู่ในใจ อยากได้ดั่งใจมากกว่าอยากได้ดั่งตาเห็น เมื่อนั้นความไร้ค่าไร้ราคาของสิ่งจอมปลอมก็บังเกิด ความไม่ลงรอยก็ปรากฏ ความเห็นแก่ตัวเพิ่มดีกรีจนต้องแยก จบ จากลากันไป ทิ้งไว้แต่กองปัญหา...
พระศาสนจักรได้มีช่วงเวลามหาพรต ก็เพื่อให้เราพัฒนาทางด้านจิตใจ เสริม ปรับแต่งจิตใจให้งดงาม ด้วยการลด ละ เลิก สิ่งภายนอก เป็นช่วงที่เราต้องขัดเกลาจิตใจของเราให้งดงาม เป็นช่วงเวลาที่ต้องชำระจิตใจเพื่อยกระดับให้สูงขึ้นบ้างในแต่ละปี การที่พระเยซูเจ้าทรงอดอาหารในทะเลทรายเป็นเวลาถึง 40 วัน เป็นเหมือนการเพาะบ่งความแข็งแกร่งทางจิตใจ พร้อมที่จะเผชิญกับวัตถุนิยม บารมีนิยม อำนาจนิยม ที่พระองค์ต้องถูกผจญ ที่สุดพระองค์ก็เอาชนะได้ ชนะซาตานนั้นไม่เท่าไหร่ แต่พระองค์เอาชนะใจตัวเอง นี่คือสุดยอดของการบำเพ็ญภาวนา
มาถึงตรงนี้ขอเชิญชวนร่วมกับทัวร์ศัลยกรรมทางจิตใจ ด้วยการอดอาหารและร่วมเดินรูป ร่วมพระมหาทรมานกับพระเยซูที่วัดของเราในทุกวันศุกร์และวันอาทิตย์นะครับ...ทัวร์นี้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น...

ไม่มีความคิดเห็น: