วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

วันวัดว่าง

 

วันวัดว่าง

ยามบ่ายของวันหนึ่ง ฝนตกอยู่นาน จะไปไหนก็ลำบาก

ตัดสินใจเดินไปหลบฝน เข้ามาในวัด เป็นวัดที่ว่าง ๆ ไม่มีพิธีกรรมใด ๆ ในเวลานี้

ดูนิ่ง สงบ ไปเสียทุกอย่าง แม้ด้านนอก จะมีฝนฟ้า ถนนเต็มได้ด้วยรถรา

คิดถึงถ้อยคำของ อาจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ที่เขียนไว้ว่า

สถานที่อันพึงเคารพของทุกศาสนา เต็มล้นไปด้วยเครื่องบูชาสักการะ และถ้อยคำอธิษฐาน วิหารในใจเรากับว่างเปล่ามาเนิ่นนาน ...” (วิหารที่ว่างเปล่า)

            รำพึงต่อ เมื่อใจนิ่ง ทุกอย่างก็จะค่อย ๆ เงียบตามมา

บางเวลาในวิถีชีวิต สิ่งที่ยากจะจัดการคือ “ใจข้างใน” ที่วุ่นวาย

เรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ คำพูดธรรมดาก็กลายเป็นมีดบาดใจ            

นี่ไม่ใช่การ “นิ่งเฉย” แต่คือ “นิ่งเพื่อมองเห็น”  

วัดว่าง ๆ
        
   
  ฉันจะ
ไม่ติเตียน จะไม่วิจารณ์ จะไม่ยุ่งเรื่องของใคร…เพราะตัวเองก็ไม่ใช่คนดี เรื่องลำพังก็ยังเอาตัวไม่รอด ตัวเองไม่ได้สมบูรณ์แบบ 

        ฉันจะไม่ถกเถียง จะไม่ตัดสินใคร… เพราะไม่ได้คิดถูกทุกอย่างเสมอไป ตัวเองก็ยังเคยพลาดพลั้งนับครั้งไม่ถ้วน

ฉันจะไม่ซ้ำเติม จะไม่ดูถูกใครใคร… เพราะยังหวังว่าคนอื่นจะให้อภัยในวันที่ผิดพลาด และรู้ว่าชีวิตมีขึ้นมีลง มีวงจรชีวิต มีจังหวะเวลา

ฉันขอเพียงจะพยายามแก้ไขตัวเองให้ดีขึ้นในทุกวัน จะไม่ไปตำหนิคนอื่นให้เสียเวลาชีวิต

วัดที่ว่างเปล่าดูสงบ พาให้วิหารในใจปล่อยวางจากความวุ่นวายทั้งปวง มาสร้างวิหารในใจของเราให้ศักดิ์สิทธิ์และสวยงามด้วยกัน