วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ปรุงจนปลอม

 

ปรุงจนปลอม

>>> สิ่งที่ปลอมอยู่ได้ไม่นานในโลกแห่งความเป็นจริง <<<

ความสุขของมนุษย์อย่างหนึ่ง คือ การรับประทานอาหารที่มีรสชาติถูกปาก วิวัฒนาการของการปรุงอาหารเป็นกระบวนการที่น่าสนใจ และมีความสำคัญต่อการพัฒนาของมนุษย์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การปรุงอาหารได้เปลี่ยนแปลงไปตามวัฒนธรรม เทคโนโลยี และความต้องการของผู้คน ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ มนุษย์เริ่มต้นด้วยการใช้ไฟในการปรุงอาหาร ซึ่งช่วยให้เนื้ออร่อยขึ้นและทำให้ย่อยง่ายขึ้น ในยุคโบราณมนุษย์เริ่มใช้เครื่องมือในการเตรียมอาหาร มีด หินบด และหม้อดิน การปรุงอาหารมีความหลากหลายมากขึ้น พอเริ่มมีการค้าขาย การแลกเปลี่ยนวัตถุดิบและเทคนิคการปรุงอาหารระหว่างวัฒนธรรมต่าง ๆ ทำให้เกิดอาหารหลากหลายรูปแบบ ในศตวรรษที่ 18-19 การผลิตอาหารเริ่มมีการพัฒนาเทคโนโลยี มีการทำอาหารกระป๋องและการแปรรูป ยุคดิจิทัลในปัจจุบัน การแชร์สูตรอาหารออนไลน์ และการเข้าถึงวิดีโอสอนทำอาหารทำให้เราเรียนรู้และสร้างสรรค์อาหารใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น

การทำอาหารแต่ละครั้ง เรามักจะใส่เครื่องหลากหลายอย่าง เพื่อเพิ่มความอร่อย เราทานอาหารเพื่อความอร่อยปากมากกว่าทานเพื่อรับคุณค่าทางอาหาร ความสามารถในการปรุงแต่งสร้างสรรค์คิดค้นทางด้านการกินนั้นซึ่งสัตว์อื่นไม่มี แม้เราจะพยายามปรุงแต่งสารอาหารเพื่อให้สัตว์เลี้ยงเราชอบ แต่ก็ใช่ว่าสัตว์เหล่านั้น จะเรียกร้องกินตาม มันก็กินเท่าที่มันหิว มีอะไรกินได้มันก็กิน ไม่ต้องใช้พ่วงปรุงอาหาร เหมือนเวลาเรากินก๋วยเตี๋ยวที่ต้องเติมน้ำตาล น้ำปลา น้ำส้วม พริก บางร้านมีพริกเผาด้วย ....

วิวัฒนาการของการปรุงอาหารไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี แต่ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ด้วย ความสร้างสรรค์ปรุงแต่งทำให้เรามนุษย์เจริญขึ้นมา ทำให้เกิดมีเทคโนโลยีมีสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ มากมาย ใช่หรือไม่ หากย้อนกลับไป กว่าที่มนุษย์เราจะคิดออกมาเป็นวัตถุปรุงแต่งสร้างสรรค์ได้ ก็คงเริ่มมาจากความคิดในใจที่อยากจะมีความสุข อยากจะสบาย ความอยากนี้มันอยู่คู่โลกมาทุกยุคทุกสมัย ยิ่งอยากมากเท่าไร เราก็ยิ่งมีสิ่งเกิดขึ้นมาใหม่ ๆ ใจเราก็ถูกปรุงแต่งขึ้นไปตามความอยาก ปรุงไปปรุงมา กลายเป็นความจอมปลอม เพราะถอยห่างจากความจริงมาเรื่อย ๆ

    ยิ่งวันนี้เราอยู่ในสังคมที่ถูกปรุงแต่งมีแต่ความฉาบฉวยและการโอ้อวด ใครโม้เก่ง พูดเก่ง มักจะกลายเป็นขวัญใจออนไลน์ อวดกันสร้างภาพ เอาความดีมาฉาย ต่อหน้าใจบุญกุศลลับหลังคนคือจอมมาร ปีศาจ พร้อมที่จะขับไล่ทุกคนที่มาขอความช่วยเหลือ บางทีสร้างภาพจนหลงเคลิ้มว่าตัวเองเป็นเช่นนั้น แต่ก็เป็นได้ไม่นาน เพราะการปรุงแต่งหาใช่ของแท้ บางคนสร้างภาพลักษณ์เพียงเพื่อจะได้ขายสินค้า เอาผลประโยชน์เข้าตัวเอง ทางที่ดีเราต้องเลิกเอาโลกจอมปลอมบนโลกโซเชี่ยลมาเปรียบเทียบกับชีวิตของเรา ในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่มีใครเพียบพร้อมไปเสียทุกอย่างหรอก ที่เราเห็นกันอยู่ ที่โชว์กันให้ว่อนเน็ตนั้น ส่วนมากเลือกที่จะโชว์ด้านที่ทำให้ตัวเองดูดี เป็นนักบุญด้วยกันทั้งนั้น  เราอย่าหลงเพีบงรูปลักษณ์ภายนอกที่ถูกปรุงแต่งมาแล้วเลย อย่าให้สิ่งที่ปรุงแต่งมาปั่นให้เราป่วน อย่ามัวสนใจแต่เรื่องของคนอื่นจนลืมมองสิ่งดี ๆ ที่อยู่รอบตัวเรา

สังคมในวันนี้เราเห็นการปรุงแต่งเนื้อหาเพื่อนำโอ้อวดกัน เพื่อต่อยอดความอยากของผู้คน และหาผลประโยชน์จากความอยากได้อยากมีของคนอื่น จนถึงขั้นอวดบุญด้วยทุนของคนอื่น ทุกคนต่างปรุงแต่งใส่กัน วนเวียนอยู่กับของปลอมแปลง ความสัมพันธ์ ความผูกพันที่เคยแนบแน่น มาถึงวันนี้มีแต่ความระแวง ระวังถึงความจริงใจต่อกัน ความสุข สันติของโลกกำลังถูกกลืนกินด้วยวัฒนธรรมแข่งกันปรุงแต่ง ตกลง ความจริงอยู่ตรงไหนกัน......

ไม่มีความคิดเห็น: