วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2565

คน ๆ หนึ่ง

 

คน ๆ หนึ่ง

>>> ในฐานะที่เราเกิดมาเป็นคน ๆ หนึ่ง จะ ยาก ดี มี จน เราได้ทำสิ่งใดงดงามไว้บนโลกนี้บ้าง<<<


พระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่
2 เสร็จสิ้นอย่างงดงามและสมพระเกียรติยิ่งนัก ชมการถ่ายทอดสดได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างผ่านทางมุมกล้อง ล้วนมีความหมายทั้งสิ้น พระราชพิธีช่วงแรกที่เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ในกรุงลอนดอน จากนั้นหีบพระบรมศพก็ถูกเคลื่อนไปตามเส้นทางพร้อมขบวน สุดท้ายไปยังโบสถ์เซนต์จอร์จภายในพระราชวังวินด์เซอร์ โดยมีแค่พระบรมวงศานุวงศ์ สมาชิกราชวงศ์อังกฤษ และเจ้าหน้าที่พระราชพิธีเท่านั้นที่ได้เข้าร่วม พระราชพิธีใช้เวลานานพอสมควร สมกับที่ คน ๆ หนึ่งสร้างความยิ่งใหญ่และความงดงามให้เกิดขึ้นกับผู้คนบนโลกนี้ได้ 


และก่อนหน้านั้นก็มีข่าวที่หลายสื่อต่างพร้อมใจกันนำมาเสนอ นั่นคือเรื่องราวของ “เดวิด เบ็คแฮม” อดีตตำนานนักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษและทีมแมนยูฯ หลังเจ้าตัวได้เดินทางไปเข้าคิวพร้อมกับผู้คนนับพันเพื่อรอเข้าเฝ้าพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 เป็นเวลานานถึง 12 ชั่วโมงเต็ม แม้เขาจะสามารถใช้สิทธิ์พิเศษได้ แต่ก็ปฏิเสธเพราะปรารถนาจะปฎิบัติเหมือนประชาชนทั่วไป  คน ๆ หนึ่งสร้างแบบอย่างง่าย ๆ ด้วยวิธีการที่แสนจะธรรรมดา 


ทั้งสองเหตุการณ์ในสถานการณ์เดียวกันนี้ ก็ยังเห็นอีกหลายคนที่วิพากษ์วิจารณ์ แบบด้อยค่าคนอื่น อาทิ ถ้าเป็นคนไทยที่มีชื่อเสียงขนาดนั้น คงไม่ต้องมาเข้าคิวนานขนาดนั้น เห็นข้อความเหล่านี้แล้วเกิดจิตสงสาร ที่เราไม่เห็นค่าการกระทำของคนอื่น แต่กลับอวดอ้างคำสารพัดเพื่อยกตนเอง ตัวอย่างง่าย ๆ นั้นน่าจะทำให้จิตใจเรายกระดับขึ้นมากกว่าการด้อยค่าด้วยคำพูดที่ไร้เดียงสาเช่นนั้น หรือนำมาไตร่ตรองตัวเองว่า ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์แบบน้้น เราจะเลือกเอาสบายหรือจะเลือกความเท่าเทียม ไม่ใช่ปากเรียกร้องแต่การกระทำเป็นอีกแบบ คน ๆ หนึ่งจะด้อยค่าคนอื่นโดยเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางมิได้ แต่เราควรเป็นคน ๆ หนึ่งที่สร้างค่าให้กับตัวเองด้วยการมองจิตใจ มองเห็นคุณธรรมในตัวเราให้ได้เสียก่อน นี่ต่างหาก คือ คน ๆหนึ่งที่สมควรจะเป็น

วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2565

ทางรัด

 

ทางรัด

เงินคือพระเจ้า ทุกยุคทุกสมัยจึงแสวงหามัน หลงลืมพระเจ้าแท้จริงที่สถิตในตัวตน

ข่าวใหญ่โตไม่แพ้น้ำท่วมกทม.หลายแห่ง กำลังไหลท่วมขยายวงกว้างไปเรื่อย ๆ นั่นคือ ข่าวคดี Forex 3D ที่มีคนมีชื่อเสียง ดารา นักแสดง เข้าไปมีเอี่ยว เข้าเกี่ยวข้องกันมากหน้าหลายตา ทั้งเป็นผู้ร่วมลงทุน เป็นผู้ลงทุนเพียงเพื่อหวังรวยเร็ว หวังเป็นอิสระทางการเงิน ให้เงินทำงาน ส่วนตัวเองสำราญกับการจับจ่าย ใช้ชีวิตแสนหรู ดูสบายงานการไม่ทำ แล้วก็โชว์ร่ำอวดรวยเอาไว้แหกตาเพื่อแลกกับการหาสมาชิกมาต่อยอดเงิน จนยอดโตมหาศาล เพราะทุกคนหิวเงิน คนอยู่บนสุด คือ คนคิดก่อตั้งระบบลวงนี้ก็รับทรัพย์อย่างมโหฬาร เพียงแค่ใช้กลโกงของแชร์ลูกโซ่ แค่ใส่วิธีการสมัยใหม่ให้ดูหรูหรา ตามปรารถนาของคนยุคนี้ ยุคของโซเชียล แค่นี้ก็เข้าทางปืน หมื่นแสนล้านใหลมาเทมา

แท้จริงสื่อโซเชียล มันก็แค่โลกสมมุติ สิ่งที่เห็น ก็ไม่เป็นอย่างที่คิด กว่าจะให้เราเห็นมันผ่านสารพัดปรุงแต่งดูแทบไม่ออก ใช่หรือไม่ ทุกคนก็อยากโชว์ด้านบวกของตัวเองกันทั้งนั้นแหละ แต่ด้านบวกถูกแทนค่าด้วยมูลค่า ไม่เน้นคุณค่า ความดีจึงแทบไม่มีไม่เห็นไม่เป็นที่นิยมในโลกสมมุตินี้ มีเรียกร้องความสนใจ สร้างภาพสวยหรู เพียงเพื่อต้องการเป็นที่ยอมรับและเชยชมเพียงข้ามคืน จะมีเรื่องจริงสักกี่เปอร์เซนต์ ทุกอย่างที่เห็นเป็นแค่ ภาพลวงตา หลายคนบนออนไลน์ชีวิตจริงไม่มีอะไรให้ภูมิใจสักอย่าง แต่ดูเก่ง สมบูรณ์พูนสุขอย่างกับเทวดา

ในโลกออนไลน์ มักสร้างทางลัดให้หลายคนหลงโลภ อยากจะได้พระเจ้าเงินตราเพื่อให้อวดบารมี ยิ่งดูยิ่งเสพยิ่งเอามาเปรียบเทียบ เมื่อคนนั้นทำได้ทำไมฉันจะทำไม่ได้ หลงลืมไปว่าพระพรของเราไม่เท่ากันแต่จะเอื้อเกื้อกูลกัน เราไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบเลย ยึดความดีเป็นที่ตั้ง เอาความจริงเป็นหลัก ใช่หรือ ชีวิตจริงมีสุขบ้าง ทุกข์บ้าง ไม่สมบูรณ์แบบบ้างก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน อย่าไป มโนโดยไร้ธรรมนำ เพราะนั่นมันคือ “ทางรัด” ที่กำลังมัดเราลงสู่ความต่ำตมใน โลกความจริง โลกที่พระเจ้าประทานความงดงามไว้ให้พวกเรา ให้เดินชมความงามตามวิถี อย่าให้เถาเงินเถาทองมาฉุดเราให้หยุดและตกเหวไป….

วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2565

มวลความสุข

 

มวลความสุข

>>> ความขุ่นเคืองใจ บางทีก็มาจากการใส่ใจในคำพูดคนอื่นมากไป<<<

พอเริ่มผ่านวันเวลาผ่านผู้คนมามาก จึงปรารถนาที่จะอยู่เงียบ ๆ ทำอะไรก็ได้ที่รู้สึกสบายใจ ใครให้ช่วยเหลืออะไรที่พอทำได้ก็ยินดี เริ่มเบื่อหน่ายการนั่งนินทา วิจารณ์คนนั้นคนนี้ (แม้บางทีมีเผลอไปบ้าง) พยายามจะไม่พูดจาที่สร้างความระคายเคือง แต่ก็ยังคงแฝงไว้ด้วยความจริงจังและจริงใจ จากที่เคยดิ้นรน กระวนกระวายสร้างตัวตน พออยู่คนเดียวกลับเห็นเพียงความว่างเปล่าที่เคยไขว่คว้าหาทำ ใครจะว่าชีวิตเหมือนอยู่ในถ้ำ ก็ไม่เป็นไร ใครจะคิดเช่นไรก็สิทธิ์ของเขา เรารู้ว่าวันนี้ไม่ต้องไปหาความร่ำรวยจากเปลือกนอก พยายามรักษาความสุขภายในเอาไว้ได้ 


ใช่หรือไม่ ที่ผ่านมาเราอาจคุ้นเคยกับคำว่า
GDP ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product) ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดทางด้านเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุด เป็นเป้าหมายการบริหารแผ่นดินและตัวชี้วัดความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนของประเทศ แต่ไม่นานมานี้ทั้งโลกกลับเห็นว่า ความสุขมวลรวมของหมู่บ้านและชุมชน : Gross Village Happiness GVH นั้นสำคัญไม่แพ้กัน ชีวิตผู้คนนั้นต้องมีการพัฒนาในระดับจิตใจ เป็นความสุข ความรู้สึกภายใน ที่ส่งผลต่อตนเอง ครอบครัว สังคม

วันหนึ่งปลาสบโอกาสพูดเย้ยเต่าว่า “เธอนี่ก็น่าขันนะ เวลาเจออะไรก็เอาแต่หลบอยู่ในกระดอง ไม่อยากยอมรับความจริงละสิ!” เต่าได้ฟังอย่างนั้นได้ยิ้มให้ปลาอย่างไม่ถือสา “คำวิจารณ์ของคนอื่นมันสำคัญกับชีวิตเรามากเหรอ? ฉันไม่ได้กลัวจนหัวหดหรอกนะ ฉันแค่อยากอยู่สงบ ๆ ของฉันก็แค่นั้นเอง” เต่าบอก “เธอไม่สนคำพูดของคนอื่นงั้นสิ!” ปลาเย้ยต่อ เต่ามองปลาแล้วยิ้มให้อีกครั้ง จากนั้นก็หันหลังว่ายต่อ พร้อมกับเอ่ยทิ้งท้ายให้ปลาคิด “นั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมฉันจึงอายุยืนกว่าเธอ!”...(นุสนธิ์บุคส์)

มวลความสุขเริ่มจากความสุขส่วนตัวที่เราสร้างขึ้น เมื่อสุขเพิ่มพูนความมั่นคงของชีวิตก็ตามมา วันนี้เราอาจจะหลงอยู่กับมาตรวัดทางด้านเงินทอง ทางด้านวัตถุ ยศศักดิ์ ตำแหน่ง และความรู้ความเก่งที่เหนือกว่าคนอื่น เรามีความสุขกับสิ่งเหล่านี้จริงหรือ? ได้มาก็อยากได้อีก กลับมาหาหนทางความสุขที่แท้จริงกันบ้าง จัดสมดุลให้เกิดขึ้นในชีวิต สร้างสุขภายใน เพื่อมวลความสุขของสังคมรอบข้างตัวเราไปด้วยกันบ้างก็ดีนะ

วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2565

ไม่ใช่แค่รู้

 

ไม่ใช่แค่รู้

>>> การจะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ของโลกนี้ยากมาก การจะพบสิ่งที่อยู่แค่เอื้อมก็ยากนักหนา

แล้วผู้ใดจะค้นพบสิ่งที่อยู่ในสวรรค์ได้ (ปชญ 9:13-18ข) <<<

ในยุคที่มีความรู้เข้ามาหาเราแบบไม่มีวันหมดสิ้น เป็นยุคที่เราไขว่คว้า ค้นหาความรู้ได้ง่ายดาย และความรู้นั้นพลันแปรได้ตลอดเวลา หลายคนที่กอดรัดความรู้แบบเก่า ๆ เอาไว้อย่างแน่นหนาจะกลายเป็นตัวตลก หลายคนคิดเองว่าความรู้ที่ตนมีนั้นมัน คือ ความจริงแท้ สิ่งที่รู้นั้น คือ สิ่งที่ไม่อาจจะเปลี่ยนไปได้ ซึ่งมันไม่ใช่ในยุคนี้เสียแล้ว เอาง่าย ๆ รูปแบบของโซเชียลมีเดียที่เราใช้ ๆ กันอยู่ แต่ละวัน แต่ละอาทิตย์ แต่ละเดือน ย่อมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพื่อผลพวงทางธุรกิจบ้าง เพื่อสนองตอบตามความต้องการของผู้ใช้บ้าง หากเราไปยึดติด เสพติดความรู้ หน้าตาเดิม ๆ ของรูปแบบ ในวันหนึ่งเราก็ไปต่อไม่เป็น จึงสมกับคำว่า “ความรู้ไม่มีวันตาย” แต่ที่เสียหายหนัก คือคนมักยึดติดกับความรู้แบบไม่รู้ตัว

ในวันนี้เราจึงเห็นหลายต่อหลายคนแพ้ภัยความรู้ของตัวเอง  ที่เที่ยวไปอวดอ้างเพียงสิ่งที่เคยรู้มาก็เท่านั้น มนุษย์เราเอาเข้าจริง เราก็แค่รู้อยู่เพียงปลายจมูก ที่สายตามองเห็นก็เท่านั้น แล้วก็มาตีกันวุ่นวาย โต้เถียง แข่งขันเอาเป็นเอาตายกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง กับเรื่องที่จะสร้างผลประโยชน์ให้กับตัวเองทั้งนั้น วันเวลาผ่านมากี่ล้านปีเราก็ยังตีกันเพราะเรื่องนี้ แค่เปลี่ยนรูปแบบไป จะมีประโยชน์อันใดหากได้ทั้งโลกครอบครองแล้วต้องอยู่เพียงลำพังคนเดียว จุดหมายปลายทางมีเพียงเท่านี้หรือ เพราะอีโก้และความต้องการของเราฝ่ายเดียวจึงไม่ยอมผ่อนตามความรู้ที่พลันเปลี่ยน

เรื่องความรู้ทางภายใน เป็นความรู้ที่มีค่าอนันต์ เป็นความรู้ที่นำไปสู่สันติสุข เป็นตวามรู้ที่จะนำความรัก เมตตามาให้เราทุกคนกลับถูกละเลย เลิกล้ม ไม่สนใจที่จะแสวงหากันแล้ว ความรู้นี้เป็นสัจจะ เป็นความรู้ที่จะทำให้เรารู้ตัว รู้สำนึก เป็นความรู้ที่จะทำให้เรารู้จักพระเจ้า เข้าใจสวรรค์ และไม่ยากที่เราจะนำมาใช้นำมาปฎิบัติตาม นี่คือการพัฒนาเติบใหญ่ทางจิตวิญญาณ อย่างที่กล่าวไว้ มันน่าเสียดายที่ไม่ใช่แค่รู้ แต่รู้แล้วไม่ทำกันเสียมากกว่า ….