ปฏิรูปจิตวิญญาณ
กระแสของการปฏิรูประบบสังคม ระบบเศรษฐกิจ
กำลังกลายเป็นกระแสหลักของโลกในยุคปัจจุบัน หลายๆประเทศมีผู้คนออกมาเรียกร้อง เพื่อต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง
และกำลังนำมาซึ่งความขัดแย้งอย่างใหญ่หลวง จนกระทั่งกลัวว่าจะเกิดความรุนแรง
ซึ่งในหลายๆประเทศกำลังเกิดปัญหานี้
และแน่นอนในประเทศไทยของเราก็กำลังจมอยู่กับภาวะเช่นนี้ แต่ปัญหาใหญ่มันติดอยู่ตรงที่ว่า
ยังมีหลายคนกลัวการเปลี่ยนแปลงและยังยึดมั่น ยึดติด ในสิ่งเดิมๆ
หรือด้วยเพราะกลัวจะสูญเสียอำนาจการครอบครอง ในขณะเดียวกัน มีอีกหลายคนคิดว่า เมื่อเปลี่ยนแปลงไปแล้วจะดีกว่าเดิมหรือไม่
จริงๆก็ไม่มีใครตอบได้ เพราะเป็นเรื่องของอนาคต แต่ที่เรียกร้องให้ต้องเปลี่ยนเพราะเห็นว่าระบบเก่าที่ใช้มานั้น
ไม่สามารถที่จะพัฒนาต่อไปได้แล้ว ติดหล่ม ติดกับ ขยับเขยื้อนไปไหนก็ไม่ได้
หรือถ้ายังย่ำอยู่กับที่รังแต่จะทำให้สังคมเสื่อมลงไปเรื่อยๆ
ภาพประเทศยูเครน |
ระบบสังคมในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มักใช้การบริโภคนำหน้าการบริจาค
(แบ่งปัน) ใช้การตลาดเข้าครอบงำและสร้างรสนิยมให้กับผู้คน แสวงหากอบโกยฉกฉวยครอบครองแต่เพียงผู้เดียว
นำมาสู่ผลของการเอารัดเอาเปรียบ นำมาซึ่งความเห็นแก่ตัวขนาดใหญ่ ต่างคนต่างอยู่
ต่างคนต่างสะสม เพราะมาตรฐานใหม่นิยมวัดค่าความเป็นคน จากการมีเงินมากน้อยเพียงใด
มากกว่าวัดจากความดีของคน ก่อให้เกิดวัฒนธรรมการชิงดีชิงเด่น แก่งแย่งแข่งขัน
แบบตัวใครตัวมัน เหยียบหัว ถีบส่ง คนที่พลาดต้องจมอยู่ใต้อำนาจตน
เบียดเบียนกันไม่ทางตรงก็ทางอ้อม นำความทุกข์มวลรวมมาสู่สังคมก้อนมหึมา
ทุกคนต่างแบกรับความทุกข์นี้ไว้ด้วยกันทั้งนั้น
มีเงินทองมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นแต่มโนธรรมกลับเหี่ยวเฉา
เสื้อผ้าหน้าผมดูดีสวยเด่น แต่นัยน์ตาต่างเศร้าเหงาหงอย จะมีประโยชน์ใดเล่า?
แท้จริงแล้ว ใช่หรือไม่ สิ่งที่เราพยายามไขว่คว้าหามายึดครองนั้น
ล้วนนำมาแต่ความทุกข์และความเกลียดชังซึ่งกันและกัน
คุณครูในโรงเรียนสอนเด็กอนุบาลแห่งหนึ่ง ตัดสินใจที่จะให้เด็กนักเรียนในชั้นของเธอเล่นเกม
ดังนั้น เธอจึงบอกให้เด็กนักเรียนแต่ละคนในชั้นนำมันฝรั่งใส่ถุงพลาสติกมาจำนวนหนึ่ง
บนมันฝรั่งแต่ละหัวให้เขียนชื่อของคนที่รังเกียจไว้
ดังนั้นจำนวนหัวมันฝรั่งที่เด็กนักเรียนใส่ไว้ในถุงของเขาจะขึ้นกับจำนวนคนที่เขารังเกียจ
ไม่ชอบหน้า
และเมื่อถึงวันกำหนด เด็กๆ
ทุกคนก็นำมันฝรั่งที่มีชื่อคนที่เขารังเกียจติดตัวมา บางคนมีมัน 2 หัว บางคนมีมัน 3
หัว ในขณะที่บางคนมีถึง 5 หัว
จากนั้นคุณครูได้สั่งให้เด็กนักเรียนนำมันฝรั่งของตนเองใส่ถุงถือติดตัวไปทุกๆ แห่ง
(แม้กระทั่งเข้าห้องน้ำ) เป็นระยะเวลา 1 อาทิตย์
ผ่านไปหลายๆ วัน
พวกเด็กนักเรียนก็เริ่มบ่นถึงกลิ่นที่ไม่สู้จะดีที่ออกมาจากมันฝรั่งซึ่งเริ่มจะเน่า
นอกจากนั้น เด็กที่มีมันฝรั่ง 5
หัวก็ยิ่งบ่นที่ต้องถือถุงหนักกว่าคนอื่น เมื่อเวลา 1 อาทิตย์สิ้นสุดลง พวกเด็กนักเรียนจึงได้รู้สึกปลดปล่อย และโล่งขึ้น เพราะเกมได้จบลงแล้ว
คุณครูถามว่า “พวกเธอรู้สึกอย่างไรกับการที่ต้องถือมันฝรั่งติดตัวอยู่
1 อาทิตย์”
พวกเด็กนักเรียนจึงระบายความหงุดหงิดไม่พอใจออกมา
และบ่นถึงความลำบากที่พวกเขาต้องเจอจากการที่ต้องถือถุงมันฝรั่งที่ทั้งหนักและส่งกลิ่นเน่าเหม็น
หลังจากนั้นคุณครูจึงได้อธิบายให้พวกเด็กได้ทราบถึงความหมายแท้จริงที่ซ่อนอยู่ในเกม
คุณครูกล่าวว่า “นี่เป็นเหมือนกับสถานการณ์จริงๆ
เมื่อเราต้องแบก เก็บความเกลียดชังผู้อื่นไว้ในใจ
มลพิษของความเกลียดชังจะกัดกร่อนใจของเรา และติดไปกับตัวเราในทุกๆ ที่ที่เราไป
ถ้าขนาดที่เรายังทนไม่ได้กับกลิ่นเน่าเหม็นของมันฝรั่งในช่วง 1 อาทิตย์ ลองคิดดูว่ามันจะเป็นเช่นไร ถ้าเราแบก เก็บความเกลียดชังไว้ในใจตลอดชั่วชีวิต
?”
การเปลี่ยนแปลงปฏิรูปทางด้านการเมือง
ทางด้านสังคม ด้านเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับมติของคนในสังคม แต่...เราแต่ละคนต้องปฏิรูปตัวเองก่อน
โดยเฉพาะเรื่องของจิตใจ เรื่องคุณธรรม เรื่องจริยธรรม ต้องให้อยู่กับตัวเรา
เป็นมโนสำนึกตลอดไป เริ่มเปลี่ยนแปลงทัศนคติ
ลดการยึดติดเสพติดกับความสุขส่วนตัวลงบ้าง มองเห็นผู้อื่นบ้าง
และอย่าปล่อยให้สิ่งที่ครอบครองนั้นเน่าเสียไปอย่างไร้ประโยชน์ นำความรักและการอภัยมาใส่บ่าใส่ไหล่มิดีกว่าหรือ
เราก็รู้ทั้งรู้ว่าสิ่งที่เรานำมาแบกใส่นั้นไม่นานก็เน่าแล้วใยเรายังไม่ปล่อยวาง
หรือให้คนที่เขาน่าจะนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้
การปฏิรูปเริ่มต้นด้วยการกลับใจ
แล้วจึงเดินไปสู่ ความรัก ความจริง และความงามของชีวิต สู่ความสมบูรณ์ โยนทิ้งความเกลียดชังผู้อื่นออกไปจากใจ
ให้อภัยผู้อื่นถือเป็นทัศนคติที่ดีที่สุดที่ควรยึดถือไว้
รักชื่นชมผู้อื่นแม้ว่าจะไม่ชอบพวกเขา
เมื่อเราเริ่มปรับปรุงจิตวิญญาณของเรา
ไม่นานรอบข้างก็จะเริ่มเปลี่ยน ทีละเล็กทีละน้อยค่อยๆทำ ความสะอาด
ความร่มเย็นก็จะบังเกิดขึ้น เราอาจจะวิตกกันมากถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมือง
สังคม เศรษฐกิจ เท่านั้น
แต่การเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตวิญญาณของผู้คนเป็นสิ่งสำคัญไม่ใช่น้อย
และไม่ต้องรอให้ใครต้องมาเป็นแกนนำ เราทำได้เลยนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป...