สู่สวรรค์ในตัวตน
>>>
อย่าเสียเวลาพยายามเป็นอย่างที่คนอื่นอยากให้เป็น <<<
หากเราสังเกตดูดี ๆ เวลาเราใช้สื่อสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเปิดดูเรื่องราวที่สนใจ หรือหาสินค้าที่เราต้องการ เพียงเปิดครั้งสองครั้ง ไม่นานเรื่องราวที่เหมือน ๆ กัน สินค้าแบบเดียวกัน ก็จะขึ้นมาให้เราได้เห็นเต็มไปหมด เพราะระบบ AI จดจำสิ่งที่เราสนใจและประมวลผลอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เราจ่มจมอยู่กับเรื่องราวเหล่านั้น และฝั่งในลงสมองให้เราจดจำ คล้อยตาม จนไม่เป็นตัวของตัวเอง อย่างเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความสนใจหนังสือการ์ตูนเล่มหนึ่งที่ได้รับการกล่าวขวัญมาก คือหนังสือชื่อ อนาคตที่ฉันเห็น เขียนโดย Ryo Tatsuki เป็นการ์ตูนที่วาดไว้ก่อนล่วงหน้า โดยผู้เขียนฝันถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ซ้ำ ๆ แล้วก็ได้บันทึกไว้ในช่วงปี 70 - 80 มีเหตุการณ์ต่าง ๆ ในโลกเกิดขึ้นจริงตามความฝันนั้น ที่ชัดที่สุด คือ สึนามิญี่ปุ่นที่เกิดในเดือนมีนาคม ปี 2011 และการทำนายเรื่องการระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่ ในต้นเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแผนรับมือตั้งแต่ต้น ๆ ปี ผลปรากฏว่าทั้งวันมีแต่เรื่องการทำนายอนาคตของโลกนี้ขึ้นมาให้อ่าน ให้เห็นมากมาย ลามมาถึงหมอดูทั้งไทยและเทศ ทำให้รู้สึกคล้อยตามว่าโลกจะถึงกาลอวสานเสียแล้วกระมัง...
จนมานั่งคิด มานั่งไตร่ตรองดู ในชีวิตจริงของเรามักจะถูกชักจูง ถูกโน้มนำดูคนอื่นอยู่เสมอ
ๆ จนกระทั่งความเป็นตัวเองแทบหาไม่ได้ในบางช่วงบางขณะ ใช่หรือไม่ เราถูกปลูกฝังมาว่าเราต้องเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
พลอยทำให้เราแสวงหาการยอมรับจากคนอื่น เราจึงพยายามทำให้คนนั้นคนนี้พอใจ
วิ่งตามคนอื่นชี้นำอย่างไม่จบสิ้น ทั้ง ๆ ที่ เอาเข้าจริงเราไม่มีทางที่จะทำให้ทุกคนพอใจเราได้ตลอดไป
จนเมื่อเรารู้จักอยู่กับตัวตนเรา ก็คิดได้ว่าจะไปเสียพลังงานกับการเอาใจคนอื่นไปทำไม
เส้นทางชีวิตของเรามีพระเจ้ากำหนด คุณค่าของเราไม่ได้ถูกกำหนดด้วยคำวิจารณ์ของใคร
เราไม่ได้เกิดมาเพื่อเอาใจคนอื่นตลอดเวลา
เป็น
“ตัวของตัวเอง” นั่นแหละดีที่สุดแล้ว ไม่มีใครดีกว่าใคร ไม่ต้องไปสนใจว่า เดินในหนทางธรรมทำความดีตามแบบของเรา
ใครจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม ใช้ชีวิตตามตัวตน ตามพระฉายาลักษณ์ที่พระเจ้าประทานมาให้ และจำไว้ว่าเราไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้
ดังนั้น ควรทำสิ่งที่เราต้องทำดีและทำให้ตัวเองมีความสุขจะดีกว่า มีคำกล่าวไว้ว่า
“เห็นคนเห็นตน เห็นนิสัยคนอื่นหมื่นแสนล้าน ไม่สู้เห็นนิสัยตนสักเพียงหนึ่ง ตัดสินคนอื่นได้มากมาย
ตัดสินใจแก้ไขตนเองไม่ได้ ก็ไม่สู้ อย่าไปตัดสินอะไรใคร”
มีความฉลาดรู้รอบสารพัด แต่ไม่รู้ใจตนก็เท่านั้น ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน นั่นคือ
รู้จักหันกลับมามองดูตนเอง พิจารณาตนเอง ยอมรับตนเอง ปรับปรุงแก้ไขตนเองมากกว่าสนใจไปยังผู้อื่น
ผู้ที่เต็มเปี่ยมในตนจึงไม่แสวงหาการเติมเต็มจากผู้อื่น เมื่อไม่คิดจะแสวงหาการเติมเต็มจึงสามารเห็นคุณค่า
และให้ความเคารพต่อผู้คนได้อย่างแท้จริง
โลกเรามีคนอยู่เป็นพันล้านคน และทุกคนถูกสร้างมาให้แตกต่าง ไม่ใช่แค่หน้าตาภายนอก บุคลิกนิสัย แม้กระทั่งลายนิ้วมือที่ไม่เคยมีใครซ้ำกัน นี่เป็นอัศจรรย์การสร้างอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าในตัวเราแต่ละคน ทุกอย่างในตัวเราเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำแบบใคร เลิกที่จะไปเลียนแบบพฤติกรรมความคิดคนอื่น ไม่ว่าเราจะมีลักษณะแบบไหน มันคือความงดงามที่แตกต่าง อย่าไปเอามาตรฐานคนอื่นมาลดคุณค่าของตัวเรา เชื่อมั่นในพระเจ้าผู้ทรงสร้างเรามา และนี่ล้วนเป็นสวรรค์ในตัวตนของเรา มาทำให้สวรรค์นี้เป็นที่ประจักษ์ต่อคนอื่น โดยไม่ต้องไปบังคับ โน้มนำให้คนทุกคนให้มาทำตามเรา และแม้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร เราจงเป็นตัวตนลูกของพระเจ้า และมั่นใจว่าพระองค์จะอยู่กับเราเสมอนะครับ