เสน่ห์ของคริสต์
หลังจากตำแหน่งพระสันตะปาปาว่างลง
บรรดาพระคาร์ดินัลจากทั่วโลกได้เดินทางเพื่อร่วมประชุมกันเพื่อรับทราบถึงแนวทางต่างๆในพระศาสนจักร
ร่วมกันกำหนดกรอบวันเลือกตั้ง ซึ่งในครั้งนี้ได้กำหนดให้มีขึ้น ในวันอังคารที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ขั้นตอนการเลือกตั้งจะประกอบด้วยพิธีกรรมต่างๆมากมาย
จารีตเก่าๆ ธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดมาอย่างยาวนานถูกนำมาใช้
ในขณะที่โลกยุคนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและมากมาย จนกลายเป็นเสน่ห์ให้น่าติดตามและค้นหาความจริง
เป็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง ดูเหมือนว่าของเก่าๆนั้นเป็นสิ่งที่งดงาม
สิ่งเหล่านั้นของเราชาวคริสต์มีคุณค่าในสายตาของโลกยุคปัจจุบันเสมอๆนั่นเอง
ท่ามกลางการคาดเดา การวิเคราะห์กันไปตามประสาโลกแห่งข่าวสารที่ไหลทะลักและถูกส่งผ่านอย่างรวดเร็ว
ราวกับว่าเราได้ร่วมอยู่ในสถานที่นั้นจริงๆ มีอีกหลายล้านคนเพิ่งจะเห็น
เพิ่งรู้เป็นประจักษ์แก่สายตาเป็นครั้งแรกในชีวิต
จึงอดที่จะตื่นเต้นในช่วงเหตุการณ์นี้ไม่ได้
การเลือกตั้งพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่
เริ่มต้นขึ้นด้วยพิธีมิสซาเพื่อจุดประสงค์ในการเลือกพระสันตะปาปา วันอังคารที่ 12 มีนาคม 2013
เวลา16.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย
ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดย พระคาร์ดินัล อันเจโล่ โซดาโน่
หัวหน้าคณะพระคาร์ดินัล เป็นประธานในพิธีมิสซา พระคาร์ดินัลโซดาโน่ เริ่มต้นบทเทศน์ด้วยการกล่าวขอบพระคุณพระสันตะปาปากิตติคุณ
เบเนดิกต์ ที่ 16 สำหรับสิ่งที่พระองค์ได้ทุ่มเทให้พระศาสนจักรเสมอมา หลังจากจบการขอบคุณนี้
เสียงปรบมือได้ดังก้องมหาวิหาร
เวลา
22.10 น.
ตามเวลาประเทศไทย คณะพระคาร์ดินัลที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่
ได้ออกจากหอพักซางตา มาร์ธา มายังวัดน้อยเปาลีน
และจะแห่เข้าวัดน้อยซิสตินเพื่อเริ่มดำเนินการเลือกตั้งพระสันตะปาปา
และได้ทำพิธีสาบานต่อหน้าพระคัมภีร์ทีละองค์
เพื่อเก็บผลการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นความลับตลอดชีวิตและทันทีที่นายจารีตประจำสันตะสำนักกล่าวถ้อยคำว่า
“Extra Omnes” (คนอื่น ๆ ทั้งหมดออกไปได้)
เจ้าหน้าที่และผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนก็ทยอยเดินออกจากวัดน้อยซิสติน หลังจากนั้น
นายจารีตก็เดินมาปิดประตู เป็นการดำเนินการเลือกพระสันตะปาปาครั้งที่ 1
การเฝ้ารอคอยควันจากปล่องบนหลังคาโบสถ์
ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ยุ่งยากมากในสายตาของคนยุคสมัยใหม่
ที่คุ้นชินกับการเห็นผลคะแนนผ่านทางสื่อแบบเรียลไทม์ ลุ้นหน้าจอ
มีตัวเลขชี้วัดให้เห็น มีโพลล์ชี้นำ ไม่ต้องมาลุ้นกลุ่มควันว่าเมื่อไหร่จะออกมาเป็นสีขาว
ดูจะเป็นเรื่องล้าสมัย แต่นี่เป็นเสน่ห์ของเราชาวคริสต์ที่แฝงเร้นไปด้วยการนำพาของพระจิต
ที่เกิดขึ้นท่ามกลางพิธีกรรมเหล่านั้น
เราจะได้ผู้นำจิตวิญญาณคนใหม่อย่างงดงามและสมบูรณ์ยิ่งโดยมิได้เป็นไปตามค่านิยม
ความนิยมของใคร ใช่หรือไม่ ในช่วงเวลานี้ ธรรมประเพณีแบบเก่าๆ การอดทนรอผลจากปล่องควัน
กลับทำให้คนทั้งโลกหยุดและหันมามองพระศาสนจักรคาทอลิกของเรา ที่จะไม่มีวันตาย
พระศาสนจักรที่เต็มไปด้วยคุณค่า พระศาสนจักรที่ต้องการให้ทุกคนมีส่วนร่วม พระศาสนจักรที่กำลังจะเดินไปกับโลกยุคปัจจุบัน
โดยไม่ต้องตกเป็นของโลก ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการแบบโลกที่ใช้กันทั่วไป
แล้วเราผู้เป็นส่วนหนึ่งในร่างกายศักดิ์สิทธิ์นี้
เราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งมากน้อยเพียงใด หรือ...เราเพียงเฝ้ารอผลออกมา
และเริ่มวิพากษ์วิจารณ์อย่างนั้นหรือไม่ เราต้องไม่เป็นเยี่ยงนั้น!!! นี่คือ แผนการณ์ของพระเจ้า
และเป็นเสน่ห์ของเราชาวคริสต์ที่สืบทอดมาและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น