ใจที่ไร้พรมแดน
>>>
บางครั้งชัยชนะ ก็ซ่อนอยู่ในความพ่ายแพ้ <<<
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาติดตามข่าวความขัดแย้งถึงขึ้นทำสงครามใส่กันระหว่างอิสราเอลกับ
อิหร่าน มีความรู้สึกว่ามนุษย์เราฉลาดคิดค้นอุปกรณ์อาวุธล้ำสมัยขึ้นมาเพื่อทำร้ายกัน
เพื่อทำลายโลกนี้ให้เร็วขึ้น การสู้รบแม้ไม่ต้องเผชิญหน้ากันเหมือนสมัยก่อน
แต่กลับกลายเป็นการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินได้มากมายมหาศาล
ไหนจะรัสเซียกับยูเครนก็เริ่มบดบี้กันหนักขึ้น เพิ่งจางไปก็อินเดียกับปากีสถาน
และประเทศเรากับเพื่อนบ้าน ก็ทำสงครามข่าวสาร ปลุกระดมในสื่อที่ไร้พรมแดน เพียงเพื่อช่วงชิงดินแดน
มีคำถามหลากหลายที่เกิดขึ้น เป็นข้อสงสัยในกฎเกณฑ์ที่มนุษย์สร้างขึ้น อาทิ
ทำไมประเทศหนึ่งผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ แต่พอประเทศหนึ่งจะผลิตบ้างก็ห้าม
ก็ถูกลงโทษ เท่าที่พอจะหาความรู้ได้ ประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์อย่างเป็นทางการ
5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริการัสเซีย สหราชอาณาจักร
ฝรั่งเศส จีน เพราะเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) และได้รับการรับรองตาม
สนธิสัญญาการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT - Non-Proliferation
Treaty) ปี
1968 มันก็ทำให้อำนาจอยู่กับบางประเทศ โลกไร้พรมแดนจึงไม่มีอยู่จริง
ในวันนี้หลายประเทศก็ผลิตอาวุธร้ายขึ้นอย่างไร้พรมแดนเหมือนกัน
สงครามไม่ใช่เรื่องของวันนี้เท่านั้น
แต่คือเรื่องของวันพรุ่งนี้ที่ยังไม่มาถึง ต้นตอแห่งความวุ่นวาย ประการสำคัญ คือ ใจคนที่ไม่รู้จักพอ ในโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน
และความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปัญหาและความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในสังคม
ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้ง ความโลภ การเอารัดเอาเปรียบ หรือแม้แต่สงคราม
ล้วนมีรากเหง้าสำคัญมาจากใจคนที่ไม่รู้จักพอนั่นเอง ใจที่รู้จักพอ ใจที่ไร้พรมแดน
ไม่ได้แปลว่าหยุดพัฒนา แต่หมายถึง พอในสิ่งที่ควรหยุด
และให้ความรักความเมตตาออกไปอย่างมิสิ้นสุด ความวุ่นวายภายนอกจึงสะท้อนจากความไม่พอภายในใจ
เมื่อใดที่ใจหยุดแสวงหาในสิ่งที่เกินความจำเป็น
เมื่อนั้นความสงบก็จะเกิดขึ้นทั้งในตัวเองและสังคม ด้วยหัวใจแห่งรักไร้พรมแดนของพระเยซูเจ้า
พระองค์จึงยอมเสียเลือดเนื้อในวันนั้น
เพื่อก่อให้เกิดสันติสุขภายในใจของเราในวันนี้